
“แมว” จัดเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ เพราะนอกจากจะน่ารัก น่าทะนุถนอมแล้ว ยังช่วยสร้างความผ่อนคลายเวลาเรากลับมาจากการทำงานอันยุ่งเหยิงได้ดีอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีทาสแมวจำนวนไม่น้อยที่ยังเป็นกังวลในเรื่องการดูแล จนทำให้บางคนต้องยกเลิกความคิดที่จะเลี้ยงแมวไป ซึ่งจริงๆ แล้วการเลี้ยงแมวไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่เราต้องทำความเข้าใจให้มาก โดยบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับแมวเอง ตามมาเลย
ทำความเข้าใจหลายๆ เรื่องในการเลี้ยงแมว
การที่เราจะเริ่มเลี้ยงแมวได้นั้นแน่นอนว่าต้องทำความเข้าใจในหลายๆ เรื่องของแมวก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถยอมรับและเลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี โดยสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนเลยก็คือ
- แมวเป็นสัตว์ที่ถ่ายเหม็นมาก
เรื่องสุขอนามัยจัดเป็นสิ่งกังวลใจต้นๆ ของเหล่าทาสแมวเลยก็ว่าได้ ซึ่งเราต้องเข้าใจก่อนว่าทั้งปัสสาวะ และอุจจาระของแมวมีกลิ่นค่อนข้างรุนแรง ซึ่งหากจัดเก็บไม่ดีอาจทำให้หมดความอยากเลี้ยงไปได้ ดังนั้นจึงควรหัดแมวตั้งแต่เล็กๆ ให้ถ่ายในกระบะทราย เนื่องจากทรายเป็นสิ่งที่ช่วยดูดซับกลิ่นปฏิกูลได้เป็นอย่างดี โดยหลังจากที่แมวถ่ายเสร็จสัก 3 วันก็ควรนำไปทำความสะอาด เปลี่ยนทราย เอากระบะตากแดดได้แล้ว
- ขนแมวก็ต้องหมั่นดูแลด้วย
เรื่องต่อมาก็คือขนแมว ที่มักจะร่วงบ่อย เกาะตามเสื้อผ้า พื้น ที่นอน โซฟา ฯลฯ สร้างความรำคานใจกับเสื้อผ้าสวยๆ ที่ต้องใส่ออกไปข้างนอกได้ ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นปัดกวาด ทำความสะอาดบ้าน รวมถึงเอาหวีมาช่วยแปรงขนแมวเพื่อกำจัดขนเก่าแทนที่จะปล่อยให้ปลิวร่วงเอง
- เล็บแมวก็ต้องฝนด้วยนะ
ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าเล็บแมวจะมีความคม ขีดข่วนเป็นรอยง่าย ดังนั้นทาสอย่างเราๆ จึงควรมีที่ฝนเล็บไว้ด้วย เพื่อไม่ให้สิ่งของเครื่องใช้ของเราหมดสวย หรือข่วนโดนตัวเราจนเกิดแผลเป็น
- ใส่ใจเรื่องอาหาร
มาต่อกันที่เรื่องอาหารการกินกันบ้าง โดยเราควรเลือกอาหารตามวัย หรือสายพันธุ์เพื่อให้แมวมีพัฒนาการที่ดีสมกับวัย ซึ่งทางที่ดีควรเป็นอาหารเม็ด เพราะนอกจากจะง่ายต่อการให้แล้ว บางสูตรก็ช่วยให้การขับถ่าย ขนดีด้วย อ้อ.. อย่าลืมอ่านฉลาก รสชาติ วันหมดอายุข้างถุงด้วยล่ะ
- สัตวแพทย์มีไว้ไม่เสียหลาย
ขนาดเรายังป่วยได้ แมวก็เหมือนกันนะ โดยเราต้องหาสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีความพร้อม ทั้งวัคซีน การทำหมัน ตรวจสุขภาพ ฯลฯ ยิ่งหาไว้เป็นแพทย์ประจำตัวยิ่งดีเพื่อให้ง่ายต่อการรักษา ทั้งนี้เราก็ควรเลือกสถานพยาบาลที่ใกล้บ้าน ไม่ทำให้เกิดความลำบากเวลาไปหาด้วยล่ะ ยิ่งเป็นคลินิคที่เปิด 24 ชม. ยิ่งดีเลย
- หมั่นเล่นกับแมว และอย่าตีแมว
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือการเล่นกับแมว ไม่ได้หมายความว่าให้เล่นนานๆ บ่อยๆ แต่ให้เข้าใกล้ ลูบหัว เอาลูกบอล ของล่อมาเล่นด้วยบ้าง เพื่อให้แมวไม่เหงา หรือหาอะไรเล่นเองจนทำให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของภายในบ้านได้ ที่สำคัญอย่าตีแมวเพราะจะทำให้แมวจำ และไม่ไว้ใจอีกเลย ไม่เข้าใกล้อีกเลย ซึ่งหากแมวผิดจริงๆ ก็ควรแตะเบาๆ พร้อมกับทำเสียงดุ (ครั้งเดียวพอ) แมวก็จะรู้แล้วว่าตัวเองทำผิด
นอกจากนี้ เรายังต้องมีพื้นที่ปล่อยให้แมวไปออกกำลังกาย วิ่งเล่นบ้างเพื่อป้องกันโรคอ้วนในแมว รวมถึงหาอุปกรณ์มาไว้ให้แมวปืนป่ายมองวิวนอกบ้านด้วย เผื่อวันไหนที่ออกไปเล่นไม่ได้จะได้ไม่งอแง แต่ทั้งนี้หากเราประเมินดูแล้วไม่พร้อมจริงๆ ก็อย่าเพิ่งเลี้ยงแมวเลยจะดีกว่า