แมวถือเป็นสัตว์อีกชนิดที่คลอดลูกออกมาเป็นตัว โดยหลังจากการผสมพันธุ์ระหว่างตัวผู้กับตัวเมียแล้วตัวเมียก็จะมีการตั้งท้องซึ่งระยะการตั้งท้องเฉลี่ยของเจ้าแมวเหล่านี้จะอยู่ประมาณ 65 วัน แต่ทั้งนี้ก็อาจมีการคลาดเคลื่อนกันได้แบบ บวกลบ 7 แต่ถ้าหากว่าตั้งท้องแค่ระยะเวลา 58 วัน ส่วนใหญ่ลูกที่ออกมาจะตายหมดเพราะอ่อนแอเกินไปเช่นเดียวกับแมวที่ตั้งท้องเกิน 71 วันก็จะตายเหมือนกันเนื่องจากว่าตัวใหญ่เกินไป ซึ่งหากใครที่เลี้ยงแมวแล้วสังเกตว่าท้องเกือบ 71 วันแต่ยังไม่มีอาการจะคลอดควรรีบพาไปหาสัตวแพทย์ทันที
การคลอดของแมว
ช่วงแรกจะใช้ระยะเวลาราว 6 ชั่วโมงนับตั้งแต่ปากมดลูกเปิด ถุงน้ำโผล่ มดลูกจะค่อยๆ บีบตัว แมวจะรีบกลับไปในสถานที่ที่พวกมันเตรียมตัวคลอด จากนั้นของเหลวที่เริ่มออกมาจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่นไม่ก็มีเลือดปนออกมาด้วย เมื่อเริ่มได้ที่จะมีอาการเบ่งคลอดใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที แต่จะไม่เกิน 90 นาที ตัวลูกแมวที่อยู่ในถุงหุ้มจะเคลื่อนผ่านปากมดลูก ถุงหุ้มที่ว่าจะปูดคล้ายลูกโป่งสีเทาหม่นๆ ผลุบๆ โผล่ๆ ออกมาให้เห็นตรงปากช่องคลอด แม่แมวจะนอนเฉยๆ แต่จะออกแรงเบ่งทุกๆ 15-30 วินาที แล้วลูกแมวจะค่อยๆ โผล่ผ่านปากช่องคลอดจนในที่สุดก็ค่อยๆ ผลุบออกมาทั้งตัว เมื่อลูกแมวออกมาข้างนอกรถของมันก็จะตามมาด้วยจากนั้นแม่แมวจะเลียลูกแมวพร้อมกัดสายรกให้ขาดออกจากหนังหน้าท้องที่ยาวราว 2-4 ซม. จากนั้นก็กินเข้าไป ถือเป็นสัญชาตญาณของสัตว์เพื่อทำลายหลักฐานไม่ให้สัตว์นักล่าตัวอื่นเข้ามากินลูกของพวกมันนั่นเอง
การดูแลแมวหลังคลอด
สำหรับแม่แมวเมื่อคลอดเสร็จจะเหนื่อยล้า หลังการคลอด 2-3 ชม. ควรให้กินนมหรืออาหารเหลวอุ่นๆ 1 ถ้วย แล้วต้องตั้งชามน้ำเอาไว้ให้ตลอดแล้วจึงค่อยให้อาหารแข็งปกติหลังผ่านไปประมาณ 1-2 วัน ในช่วง 2-3 วันแรกแม่แมวยังคงมีน้ำคร่ำและเลือดติดค้างในมดลูกทำให้จะเห็นของเหลวสีดำๆ เขียวๆ ไหลออกมาจากช่องคลอด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ได้มีอะไรน่าตกใจ สำหรับลูกแมวพึ่งคลอดให้รีบนำไปกินนมเหลืองจากแม่แมวภายใน 1 วัน แต่ปกติแม่แมวก็จะรู้อยู่แล้วและต้องให้กินนมแม่แมวจนกว่าจะหย่านมประมาณ 4-6 สัปดาห์ ในกรณีนี้ส่วนใหญ่แม่แมวจะไม่ชอบให้ใครเข้าไปยุ่งซึ่งเจ้าของสามารถช่วยเป็นหูเป็นตาดูความเปลี่ยนแปลงของพวกมันได้พร้อมกับทำสถานที่อยู่ให้เหมาะสม เมื่อลูกแมวหย่านมก็ควรฝึกให้กินอาหารเสริมก่อนเพื่อป้องกันปัญหาการไม่ยอมหย่านม แล้วจึงค่อยๆ ให้อาหารที่เหมาะสมต่อไป